พระพุทธองค์ได้แสดงไว้โดยปรารภภิกษุรูปหนึ่ง ผู้ถูกภรรยาเก่ารบเร้าให้ลาสิกขา มีเนื้อความว่า ในอดีตกาลล่วงแล้วมา มีเนื้อหนุ่มตัวหนึ่งซึ่งอยู่ตามเชิงเขาได้มารักใคร่ผูกพันกับนางเนื้อที่อยู่ในป่าใกล้บ้านคน แล้วติดตามนางเนื้อนั้นมา พอมาถึงมรรคาแห่งหนึ่ง นางเนื้อนั้นได้กลิ่นมนุษย์รู้ว่ามีนายพรานแอบอยู่ข้างทางจึงให้เนื้อหนุ่มนั้นออกเดินหน้า นายพรานก็ได้แทงเนื้อหนุ่มนั้นให้ล้มลงตายกับที่ ฝ่ายนางมฤคีนั้นก็ได้กระโดดหนีโดยเร็วพลัน เมื่อพฤกษเทวดาตนหนึ่งได้แลเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็กล่าวติเตียนเนื้อหนุ่มนั้นว่า ตายเพราะอำนาจมาตุคามแล้วแสดงสิ่งที่ควรติเตียน ๓ ประการ คือ ประการที่ ๑ ว่า การตายแห่งเนื้อหนุ่มนี้มิใช่มารดาหรือบิดาทำให้ มาตุคามทำให้โดยแท้ ประการที่ ๒ ว่า คนทั้งหลายที่ต้องภัยได้ทุกข์ในโลกนี้และโลกหน้า ก็ล้วนแต่เพราะมาตุคามเป็นต้นเหตุ ประการที่ ๓ ว่า ในบ้านใดเมืองใดมีสตรีเป็นหัวหน้าบ้านเมืองนั้นเป็นที่น่าครหาติเตียน ครั้นแสดงข้อที่ควรติเตียนอย่างนี้แล้ว จึงได้แสดงธรรมด้วยคาถาว่า ธีรตฺถุ กณฺฑินํ สลฺลํ ปุริสํ คาฬหเวธินํ ธิรตฺถุ ตํ ชนปทํ ยตฺถิตฺถี ปริณายิกา เต วาปี ธิกฺกิตา สตฺตา เย อิตฺถีนํ วสํ คตาติ แปลว่า การที่บุรุษยิงศรไปถูกร่างกายแห่งสัตว์ก็เป็นของน่ากลัวอย่างหนึ่ง การมีสตรีเป็นหัวหน้าในบ้านเมืองนั้น ๆ ก็เป็นของน่ากลัวอย่างหนึ่ง การมีผู้ตกอยู่ในอำนาจแห่งสตรี ก็เป็น ของน่ากลัวอย่างหนึ่ง ดังนี้
ครั้นทรงแสดงเรื่องอดีตจบลงดังนี้แล้ว จึงทรงแสดงอริยสัจต่อไป เมื่อจบอริยสัจลง ภิกษุผู้ถูกภรรยาเก่ารบกวนให้สึกนั้นก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล แล้วทรงประชุมชาดกว่า เนื้อหนุ่มในครั้งนั้น ได้เกิดมาเป็นพระภิกษุรูปนี้ นางเนื้อในครั้งนั้น ได้เกิดมาเป็นภรรยาเก่าแห่งภิกษุรูปนี้ ส่วนพฤษเทวดาในครั้งนั้น คือเราตถาคตในบัดนี้ ในชาดกนี้ชี้ให้เห็นว่า สรรพสัตว์ที่อุบัติมาในโลกนี้มักถึงความพินาศเพราะเหตุแห่งมาตุคาม นักปราชญ์ทั้งหลาย จึงได้สอนกุลบุตรไว้ไม่ให้ละเลิงหลงในมาตุคามจนเกินการ
“เราติเตียนบุรุษผู้มีลุกศรเป็นอาวุธ ยิงปล่อยไปเต็มกำลัง เรา
ติเตียนชนบทที่มีหญิงเป็นผู้นำ อนึ่ง สัตว์เหล่าใด ตกอยู่ใน
อำนาจของหญิงทั้งหลาย สัตว์เหล่านั้นบัณฑิตติเตียนแล้ว.”
กัณฑินชาดก จบ.